วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ระบบฐานข้อมูล


ระบบฐานข้อมูล (Database System)

          ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้อง
และถูกนำมารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่ง อาจประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลหลายแฟ้ม
โดยแต่ละแฟ้มมีความเกี่ยงข้องกันเช่น แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลลูกค้า แฟ้มข้อมูล
การขาย แฟ้มข้อมูลสินค้าเป็นต้น ระบบฐานข้อมูลจะประกอบไปด้วย ฐานข้อมูล ระบบจัดการ
ฐานข้อมูลและ Data Dictionary โดยฐานข้อมูลจะเป็นที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ไว้ด้วยกัน
          ฐานข้อมูล (Database) คือที่อยู่ของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน หรือเปรียบเสมือนเป็นคลัง
ของข้อมูล ซึ่งจะถูกจัดเก็บรวมกันอย่างมีระบบและรูปแบบ ทำให้ง่ายต่อการประมวลผลและ
จัดการ โดยการใช้งานจะต้องมีโปรแกรมเพื่อจัดการฐานข้อมูลที่มีอยู่ซึ่งเรียกว่าระบบจัดการ
ฐานข้อมูล (Database Management System, DBMS) สำหรับฐานข้อมูลที่นิยมมากที่สุดจะเป็น
แบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) ซึ่งจะเก็บข้อมูลอยู่ในรูปแบบของตาราง
(Table) โดยข้อมูลในแต่ละตารางจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

    ระบบฐานข้อมูลประกอบส่วนประกอบหลัก4 ส่วนได้แก่

1. ข้อมูล (Data) ข้อมูลในฐานข้อมูลจะต้องมีคุณสมบัติ 2 ประการ คือ
  • เบ็ดเสร็จ (Integrate) ฐานข้อมูลเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลจากแฟ้มต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อลดข้อมูลซ้ำซ้อนระหว่างแฟ้ม
  • ใช้ร่วมกันได้ (Share) ข้อมูลแต่ละชิ้นในฐานข้อมูลสามารถนำมาแบ่งใช้กันได้ระหว่างผู้ใช้ต่าง ๆ ในระบบ
2. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ประกอบด้วย อุปกรณ์บันทึกข้อมูลเช่น จานแม่เหล็ก , I/O device , Device controller , I/O channels , หน่วยประมวลผล และหน่วยความจำหลัก
3. ซอฟต์แวร์ (Sorftware) ตัวกลางเชื่อมระหว่างฐานข้อมูลและผู้ใช้คือ DBMS เป็นซอฟต์แวร์ที่สำคัญที่สุดของระบบฐานข้อมูล นอกจากนี้ยังมี Utility , Application Develoment tool , Desisn aids , Report writers , ect.
4. ผู้ใช้ (Users) มี 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
  • Application Programmer เขียนโปรแกรมประยุกต์
  • End Users ผู้ใช้ที่อยู่กับ Online terminal เข้าถึงข้อมูลโดยผ่านโปรแกรมประยุกต์ หรือผ่านภาษาเรียกค้น (Query Language)
Data Addministrator & Database Administrator
ความสำคัญของระบบฐานข้อมูล
      1. ความกะทัดรัด ( Compactness ) การบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลไว้ได้เป็นจำนวนมากในที่ เดียวกัน อยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประหยัดพื้นที่ ไม่เกะกะอย่างในเอกสาร
ที่เป็นกระดาษ

     2. ความรวดเร็ว ( Speed ) เครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบฐานข้อมูลสามารถค้นคืนและปรับปรุงข้อมูลให้เป็น ปัจจุบัน ได้เร็วกว่ามือมนุษย์มาก

     3. ความเบื่อหน่ายน้อยกว่า ( Less Drudgery ) ในการดูแลรักษาแฟ้มข้อมูลที่เป็นกระดาษเป็นงานที่หนักกว่ามากหากเปรียบเทียบ กับแฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์

     4. ความถูกต้องเป็นปัจจุบัน ( Currency ) เมื่อหันมาใช้ระบบฐานข้อมูลจะทำให้เรามีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย พร้อมที่จะตอบคำถามที่เราต้องการทราบได้ทุกเมื่อ 


ประโยชน์ของระบบการจัดการฐานข้อมูล 
1. ความมีประสิทธิภาพ 
     ระบบการจัดการฐานข้อมูล ช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลมากขึ้น เช่น อธิการบดีต้องการทราบว่าในแต่ละปีมีอาจารย์หรือบุคลากรเกษียณอายุราชการเป็น จำนวนเท่าไร และมีอาจารย์สาขาใดบ้างที่เกษียณ  ในอนาคตมีสาขาใดขาดแคลนหรือไม่ ระบบฐานข้อมูลสามารถให้คำตอบแก่ผู้บริหารได้

2.การสอบถามข้อมูล 
     ระบบบบการจัดการฐานข้อมูลมีภาษาที่ใช้ในการสอบถามสำหรับสอบถามข้อมูลได้ทันทีแม้ว่า โปรแกรมเมอร์ไม่ได้เขียนคำสั่งสอบถามในบางรายการเอาไว้ผู้ใช้ที่มีความชำนาญ สามารถใช้คำสั่งเพื่อให้ได้คำตอบแบบทันทีทันใดได้เช่นกันเช่นในกรณีระบบฐานข้อมูลของผู้ป่วย ถ้าผู้บริหารต้องการทราบจำนวนสถิติของผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุจากรถ จักรยานยนต์ว่ามีจำนวนเท่าไรสามารถใช้คำสั่งสอบถามแบบง่าย ๆ ได้ คำสั่งดังกล่าว 


3.การเข้าถึงข้อมูล

      ระบบ การจัดการฐานข้อมูลให้บริการการเข้าถึงข้อมูลได้เป็นอย่างดีมีระบบรักษาความ ปลอดภัยรวมทั้งการจัดการข้อมูลที่ดี เพราะระบบการจัดการฐานข้อมูลมีฟังก์ชันการให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลโดย บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ถ้าหากไม่ได้รับสิทธิ์จากผู้บริหารระบบ

                      

4.ลดการเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน ข้อมูลบางชุดที่อยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลอาจมีปรากฏอยู่หลาย ๆ แห่ง เพราะมีผู้ใช้ข้อมูลชุดนี้หลายคน เมื่อใช้ระบบฐานข้อมูลแล้วจะช่วยให้ความซ้ำซ้อนของข้อมูลลดน้อยลง เช่น ข้อมูลอยู่ในแฟ้มข้อมูลของผู้ใช้หลายคน ผู้ใช้แต่ละคนจะมีแฟ้มข้อมูลเป็นของตนเอง ระบบฐานข้อมูลจะลดการซ้ำซ้อนของข้อมูลเหล่านี้ให้มากที่สุด โดยจัดเก็บในฐานข้อมูลไว้ที่เดียวกัน ผู้ใช้ทุกคนที่ต้องการใช้ข้อมูลชุดนี้จะใช้โดยผ่านระบบฐานข้อมูล ทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลและลดความซ้ำซ้อนลงได้



5.การป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลทำได้อย่างสะดวก การป้องกันและรักษาความปลอดภัยกับข้อมูลระบบฐานข้อมูลจะให้เฉพาะผู้ที่ เกี่ยวข้องเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าไปใช้ฐานข้อมูลได้เรียกว่ามีสิทธิส่วน บุคคล (privacy) ซึ่งก่อให้เกิดความปลอดภัย (security) ของ ข้อมูลด้วย ฉะนั้นผู้ใดจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องมีการกำหนดสิทธิ์กันไว้ ก่อนและเมื่อเข้าไปใช้ข้อมูลนั้น ๆ ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลในรูปแบบที่ผู้ใช้ออกแบบไว้ตัวอย่าง เช่น ผู้ใช้สร้างตารางข้อมูลขึ้นมาและเก็บลงในระบบฐานข้อมูล ระบบจัดการฐานข้อมูลจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ลงในอุปกรณ์เก็บข้อมูลในรูปแบบของ ระบบจัดการฐานข้อมูลซึ่งอาจเก็บข้อมูลเหล่านี้ลงในแผ่นจานบันทึกแม่เหล็ก เป็นระเบียน บล็อกหรืออื่น ๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้ว่าโครงสร้างของแฟ้มข้อมูลนั้นเป็นอย่างไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูลดัง นั้นถ้าผู้ใช้เปลี่ยนแปลงลักษณะการเก็บข้อมูล เช่น เปลี่ยนแปลงรูปแบบของตารางเสียใหม่ ผู้ใช้ก็ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลของเขาจะถูกเก็บลงในแผ่นจานบันทึกแม่เหล็กใน ลักษณะใด ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะจัดการให้ทั้งหมด ในทำนองเดียวกันถ้าผู้ออกแบบระบบฐานข้อมูลเปลี่ยนวิธีการเก็บข้อมูลลงบน อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ผู้ใช้ก็ไม่ต้องแก้ไขฐานข้อมูลที่เขาออกแบบไว้แล้ว ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะจัดการให้ ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า ความไม่เกี่ยวข้องกันของข้อมูล (data independent) 



6.สามารถขยายงานได้ง่าย เมื่อต้องการจัดเพิ่มเติมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะสามารถเพิ่มได้อย่างง่ายไม่ ซับซ้อน เนื่องจากมีความเป็นอิสระของข้อมูล จึงไม่มีผลกระทบต่อข้อมูลเดิมที่มีอยู่



7 .ทำให้ข้อมูลบูรณะกลับสู่สภาพปกติได้เร็วและมีมาตรฐาน เนื่องจากการจัดพิมพ์ข้อมูลใน   ระบบ ที่ไม่ได้ใช้ฐานข้อมูล    ผู้  เขียนโปรแกรมแต่ละคนมีแฟ้มข้อมูลของตนเองเฉพาะ ฉะนั้น แต่ละคนจึงต่างก็สร้างระบบการบูรณะข้อมูลให้กลับสู่ สภาพปกติในกรณีที่ ข้อมูลเสียหายด้วยตนเองและด้วยวิธีการของตนเอง จึงขาดประสิทธิภาพและมาตรฐาน แต่เมื่อมาเป็นระบบฐาน  ข้อมูลแล้ว การบูรณะข้อมูลให้กลับคืนสู่สภาพปกติจะมีโปรแกรมชุดเดียวและมีผู้ดูแลเพียง คนเดียวที่ดูแลทั้งระบบ ซึ่งย่อมต้อง  มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันแน่นอน                  

 ตัวอย่างฐานข้อมูล
1.ระบบธนาคารซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจจะประกอบด้วยรายละเอียดของลูกค้า  โดยจัดเก็บชื่อ  ที่อยู่  รายการฝากเงินรายการสินเชื่อ  ยอดคงเหลือของบัญชีแต่ละประเภท

2.ระบบจองตั๋วเครื่องบิน  ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแต่ละเที่ยวบิน  รายละเอียดเกี่ยวกับราคาตั๋ว  และจำนวนตั๋วที่ยังคงเหลืออยู่  พร้อมทั้งข้อมูลของลูกค้า  ซึ่งอาจจะเก็บชนิดของอาหารและหมายเลขที่นั่งที่ลูกค้าต้องการด้วย  ระบบข้อมูล ของบริษัทหนึ่งๆ อาจจะเก็บข้อมูลรายละเอียด ของพนักงานทุกคน  ข้อมูลโครงการและแผนกต่างๆ ของบริษัท  รวมถึงอาจจะจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับญาติๆ ของพนักงานในบริษัทด้วยเพื่อประโยชน์ในการให้สวัสดิการแก่พนักงาน

3. ระบบการสั่งซื้อสินค้าเข้าในร้านค้า ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจจะประกอบด้วย รหัสลูกค้า ชื่อ-นามสกุล  ที่อยู่ รหัสใบสั่งซื้อสินค้า  รหัสสินค้า   ประเภท สินค้า ราคาต่อหน่วย  เป็นต้น
___________________________________________________________
1.กำหนด Entity ทุกตัวในระบบฐานข้อมูลนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ในระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ประกอบด้วย Entity ใบรายงานการสั่งซื้อ ลูกค้า และสินค้า
2. กำหนดคีย์หลัก และ Attribute ต่างๆ ของ Entity  สำหรับในตัวอย่างจะกล่าวถึงระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ตัวอย่าง เช่น คีย์หลักของ Entity ลูกค้า คือ รหัสลูกค้า ซึ่งเป็นAttribute ที่เรากำหนดให้เป็นคีย์หลักอยู่แล้ว ในการออกแบบระบบจริง ควรจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ละเอียดว่า Attribute ใดสามารถเป็นคีย์หลักได้บ้าง
3. กำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง Entity ต่างๆ เหล่านั้น สำหรับในตัวอย่างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า Entity ลูกค้า และใบรายการสั่งซื้อ จะมีความสัมพันธ์กันแบบ One-to-Many และความสัมพันธ์ระหว่างใบการสั่งซื้อ และสินค้าเป็น Many-to-Many
4. ทำการเปลี่ยน Entity ที่ได้ไปอยู่ในรูปตาราง        















4.ฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์




อ้างอิง
http://61.7.221.103/access-online/database/database1.htm

http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=1240&title=%B5%D1%C7%CD%C2%E8%D2%A7%B0%D2%B9%A2%E9%CD%C1%D9%C5

http://www.pcccr.ac.th/ict_parinya/Subject/Access/database.pdf

            
http://www.learners.in.th/blogs/posts/386069

http://course.eau.ac.th/course/Download/0520207/public_html/lesson01/ms2t3.htm

http://itd.htc.ac.th/st_it51/it5107/chatuporn/5139011007/5139011007_D/test2.htm

http://portal.in.th/asudah/pages/detu/

https://sites.google.com/site/thaidatabase2/1.2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5

http://cptd.chandra.ac.th/%5Cselfstud%5Cdbsystem%5C%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น