ระบบฐานข้อมูล (Database System)
ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้อง
และถูกนำมารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่ง อาจประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลหลายแฟ้ม
โดยแต่ละแฟ้มมีความเกี่ยงข้องกันเช่น แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลลูกค้า แฟ้มข้อมูล
การขาย แฟ้มข้อมูลสินค้าเป็นต้น ระบบฐานข้อมูลจะประกอบไปด้วย ฐานข้อมูล ระบบจัดการ
ฐานข้อมูลและ Data Dictionary โดยฐานข้อมูลจะเป็นที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ไว้ด้วยกัน
ฐานข้อมูล (Database) คือที่อยู่ของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน หรือเปรียบเสมือนเป็นคลัง
ของข้อมูล ซึ่งจะถูกจัดเก็บรวมกันอย่างมีระบบและรูปแบบ ทำให้ง่ายต่อการประมวลผลและ
จัดการ โดยการใช้งานจะต้องมีโปรแกรมเพื่อจัดการฐานข้อมูลที่มีอยู่ซึ่งเรียกว่าระบบจัดการ
ฐานข้อมูล (Database Management System, DBMS) สำหรับฐานข้อมูลที่นิยมมากที่สุดจะเป็น
แบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) ซึ่งจะเก็บข้อมูลอยู่ในรูปแบบของตาราง
(Table) โดยข้อมูลในแต่ละตารางจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ระบบฐานข้อมูลประกอบส่วนประกอบหลัก4 ส่วนได้แก่
1.
ข้อมูล (Data) ข้อมูลในฐานข้อมูลจะต้องมีคุณสมบัติ
2 ประการ คือ
- เบ็ดเสร็จ (Integrate) ฐานข้อมูลเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลจากแฟ้มต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อลดข้อมูลซ้ำซ้อนระหว่างแฟ้ม
- ใช้ร่วมกันได้ (Share) ข้อมูลแต่ละชิ้นในฐานข้อมูลสามารถนำมาแบ่งใช้กันได้ระหว่างผู้ใช้ต่าง ๆ ในระบบ
2.
ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ประกอบด้วย
อุปกรณ์บันทึกข้อมูลเช่น
จานแม่เหล็ก , I/O device , Device
controller , I/O channels ,
หน่วยประมวลผล
และหน่วยความจำหลัก
3.
ซอฟต์แวร์ (Sorftware)
ตัวกลางเชื่อมระหว่างฐานข้อมูลและผู้ใช้คือ
DBMS เป็นซอฟต์แวร์ที่สำคัญที่สุดของระบบฐานข้อมูล
นอกจากนี้ยังมี Utility , Application
Develoment tool , Desisn aids , Report writers , ect.
4.
ผู้ใช้ (Users) มี
3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- Application Programmer เขียนโปรแกรมประยุกต์
- End Users ผู้ใช้ที่อยู่กับ Online terminal เข้าถึงข้อมูลโดยผ่านโปรแกรมประยุกต์ หรือผ่านภาษาเรียกค้น (Query Language)
Data
Addministrator & Database Administrator
ความสำคัญของระบบฐานข้อมูล
1. ความกะทัดรัด ( Compactness )
การบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลไว้ได้เป็นจำนวนมากในที่
เดียวกัน อยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประหยัดพื้นที่
ไม่เกะกะอย่างในเอกสาร
ที่เป็นกระดาษ
2. ความรวดเร็ว ( Speed )
เครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบฐานข้อมูลสามารถค้นคืนและปรับปรุงข้อมูลให้เป็น
ปัจจุบัน ได้เร็วกว่ามือมนุษย์มาก
3. ความเบื่อหน่ายน้อยกว่า ( Less
Drudgery )
ในการดูแลรักษาแฟ้มข้อมูลที่เป็นกระดาษเป็นงานที่หนักกว่ามากหากเปรียบเทียบ
กับแฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์
4. ความถูกต้องเป็นปัจจุบัน (
Currency )
เมื่อหันมาใช้ระบบฐานข้อมูลจะทำให้เรามีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย
พร้อมที่จะตอบคำถามที่เราต้องการทราบได้ทุกเมื่อ
ประโยชน์ของระบบการจัดการฐานข้อมูล
1. ความมีประสิทธิภาพ
ระบบการจัดการฐานข้อมูล
ช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลมากขึ้น เช่น
อธิการบดีต้องการทราบว่าในแต่ละปีมีอาจารย์หรือบุคลากรเกษียณอายุราชการเป็น
จำนวนเท่าไร และมีอาจารย์สาขาใดบ้างที่เกษียณ ในอนาคตมีสาขาใดขาดแคลนหรือไม่ ระบบฐานข้อมูลสามารถให้คำตอบแก่ผู้บริหารได้
2.การสอบถามข้อมูล
ระบบบบการจัดการฐานข้อมูลมีภาษาที่ใช้ในการสอบถามสำหรับสอบถามข้อมูลได้ทันทีแม้ว่า
โปรแกรมเมอร์ไม่ได้เขียนคำสั่งสอบถามในบางรายการเอาไว้ผู้ใช้ที่มีความชำนาญ
สามารถใช้คำสั่งเพื่อให้ได้คำตอบแบบทันทีทันใดได้เช่นกันเช่นในกรณีระบบฐานข้อมูลของผู้ป่วย
ถ้าผู้บริหารต้องการทราบจำนวนสถิติของผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุจากรถ
จักรยานยนต์ว่ามีจำนวนเท่าไรสามารถใช้คำสั่งสอบถามแบบง่าย ๆ ได้ คำสั่งดังกล่าว
3.การเข้าถึงข้อมูล
ระบบ
การจัดการฐานข้อมูลให้บริการการเข้าถึงข้อมูลได้เป็นอย่างดีมีระบบรักษาความ
ปลอดภัยรวมทั้งการจัดการข้อมูลที่ดี
เพราะระบบการจัดการฐานข้อมูลมีฟังก์ชันการให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลโดย
บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
ถ้าหากไม่ได้รับสิทธิ์จากผู้บริหารระบบ
4.ลดการเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน
ข้อมูลบางชุดที่อยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลอาจมีปรากฏอยู่หลาย ๆ แห่ง
เพราะมีผู้ใช้ข้อมูลชุดนี้หลายคน
เมื่อใช้ระบบฐานข้อมูลแล้วจะช่วยให้ความซ้ำซ้อนของข้อมูลลดน้อยลง เช่น
ข้อมูลอยู่ในแฟ้มข้อมูลของผู้ใช้หลายคน
ผู้ใช้แต่ละคนจะมีแฟ้มข้อมูลเป็นของตนเอง
ระบบฐานข้อมูลจะลดการซ้ำซ้อนของข้อมูลเหล่านี้ให้มากที่สุด
โดยจัดเก็บในฐานข้อมูลไว้ที่เดียวกัน
ผู้ใช้ทุกคนที่ต้องการใช้ข้อมูลชุดนี้จะใช้โดยผ่านระบบฐานข้อมูล
ทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลและลดความซ้ำซ้อนลงได้
5.การป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลทำได้อย่างสะดวก
การป้องกันและรักษาความปลอดภัยกับข้อมูลระบบฐานข้อมูลจะให้เฉพาะผู้ที่
เกี่ยวข้องเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าไปใช้ฐานข้อมูลได้เรียกว่ามีสิทธิส่วน
บุคคล (privacy) ซึ่งก่อให้เกิดความปลอดภัย (security) ของ
ข้อมูลด้วย
ฉะนั้นผู้ใดจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องมีการกำหนดสิทธิ์กันไว้
ก่อนและเมื่อเข้าไปใช้ข้อมูลนั้น ๆ
ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลในรูปแบบที่ผู้ใช้ออกแบบไว้ตัวอย่าง
เช่น ผู้ใช้สร้างตารางข้อมูลขึ้นมาและเก็บลงในระบบฐานข้อมูล
ระบบจัดการฐานข้อมูลจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ลงในอุปกรณ์เก็บข้อมูลในรูปแบบของ
ระบบจัดการฐานข้อมูลซึ่งอาจเก็บข้อมูลเหล่านี้ลงในแผ่นจานบันทึกแม่เหล็ก
เป็นระเบียน บล็อกหรืออื่น ๆ
ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้ว่าโครงสร้างของแฟ้มข้อมูลนั้นเป็นอย่างไร
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูลดัง
นั้นถ้าผู้ใช้เปลี่ยนแปลงลักษณะการเก็บข้อมูล เช่น
เปลี่ยนแปลงรูปแบบของตารางเสียใหม่
ผู้ใช้ก็ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลของเขาจะถูกเก็บลงในแผ่นจานบันทึกแม่เหล็กใน
ลักษณะใด ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะจัดการให้ทั้งหมด
ในทำนองเดียวกันถ้าผู้ออกแบบระบบฐานข้อมูลเปลี่ยนวิธีการเก็บข้อมูลลงบน
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ผู้ใช้ก็ไม่ต้องแก้ไขฐานข้อมูลที่เขาออกแบบไว้แล้ว
ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะจัดการให้ ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า
ความไม่เกี่ยวข้องกันของข้อมูล (data independent)
6.สามารถขยายงานได้ง่าย
เมื่อต้องการจัดเพิ่มเติมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะสามารถเพิ่มได้อย่างง่ายไม่
ซับซ้อน เนื่องจากมีความเป็นอิสระของข้อมูล
จึงไม่มีผลกระทบต่อข้อมูลเดิมที่มีอยู่
7 .ทำให้ข้อมูลบูรณะกลับสู่สภาพปกติได้เร็วและมีมาตรฐาน เนื่องจากการจัดพิมพ์ข้อมูลใน ระบบ
ที่ไม่ได้ใช้ฐานข้อมูล
ผู้ เขียนโปรแกรมแต่ละคนมีแฟ้มข้อมูลของตนเองเฉพาะ ฉะนั้น
แต่ละคนจึงต่างก็สร้างระบบการบูรณะข้อมูลให้กลับสู่ สภาพปกติในกรณีที่
ข้อมูลเสียหายด้วยตนเองและด้วยวิธีการของตนเอง จึงขาดประสิทธิภาพและมาตรฐาน
แต่เมื่อมาเป็นระบบฐาน ข้อมูลแล้ว
การบูรณะข้อมูลให้กลับคืนสู่สภาพปกติจะมีโปรแกรมชุดเดียวและมีผู้ดูแลเพียง
คนเดียวที่ดูแลทั้งระบบ
ซึ่งย่อมต้อง มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันแน่นอน
1.ระบบธนาคารซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจจะประกอบด้วยรายละเอียดของลูกค้า โดยจัดเก็บชื่อ ที่อยู่ รายการฝากเงินรายการสินเชื่อ ยอดคงเหลือของบัญชีแต่ละประเภท
2.ระบบจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแต่ละเที่ยวบิน รายละเอียดเกี่ยวกับราคาตั๋ว และจำนวนตั๋วที่ยังคงเหลืออยู่ พร้อมทั้งข้อมูลของลูกค้า ซึ่งอาจจะเก็บชนิดของอาหารและหมายเลขที่นั่งที่ลูกค้าต้องการด้วย ระบบข้อมูล ของบริษัทหนึ่งๆ อาจจะเก็บข้อมูลรายละเอียด ของพนักงานทุกคน ข้อมูลโครงการและแผนกต่างๆ ของบริษัท รวมถึงอาจจะจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับญาติๆ ของพนักงานในบริษัทด้วยเพื่อประโยชน์ในการให้สวัสดิการแก่พนักงาน
3. ระบบการสั่งซื้อสินค้าเข้าในร้านค้า ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บอาจจะประกอบด้วย รหัสลูกค้า ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ รหัสใบสั่งซื้อสินค้า รหัสสินค้า ประเภท สินค้า ราคาต่อหน่วย เป็นต้น
___________________________________________________________
1.กำหนด Entity ทุกตัวในระบบฐานข้อมูลนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ในระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ประกอบด้วย Entity ใบรายงานการสั่งซื้อ ลูกค้า และสินค้า
2. กำหนดคีย์หลัก และ Attribute ต่างๆ ของ Entity สำหรับในตัวอย่างจะกล่าวถึงระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ตัวอย่าง เช่น คีย์หลักของ Entity ลูกค้า คือ รหัสลูกค้า ซึ่งเป็นAttribute ที่เรากำหนดให้เป็นคีย์หลักอยู่แล้ว ในการออกแบบระบบจริง ควรจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ละเอียดว่า Attribute ใดสามารถเป็นคีย์หลักได้บ้าง
3. กำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง Entity ต่างๆ เหล่านั้น สำหรับในตัวอย่างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า Entity ลูกค้า และใบรายการสั่งซื้อ จะมีความสัมพันธ์กันแบบ One-to-Many และความสัมพันธ์ระหว่างใบการสั่งซื้อ และสินค้าเป็น Many-to-Many
4. ทำการเปลี่ยน Entity ที่ได้ไปอยู่ในรูปตาราง
4.ฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์
อ้างอิง
http://61.7.221.103/access-online/database/database1.htm
http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=1240&title=%B5%D1%C7%CD%C2%E8%D2%A7%B0%D2%B9%A2%E9%CD%C1%D9%C5
http://www.pcccr.ac.th/ict_parinya/Subject/Access/database.pdf
http://www.learners.in.th/blogs/posts/386069
http://course.eau.ac.th/course/Download/0520207/public_html/lesson01/ms2t3.htm
http://itd.htc.ac.th/st_it51/it5107/chatuporn/5139011007/5139011007_D/test2.htm
http://portal.in.th/asudah/pages/detu/
https://sites.google.com/site/thaidatabase2/1.2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5
http://cptd.chandra.ac.th/%5Cselfstud%5Cdbsystem%5C%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น